'พระเครื่อง'ยุค'หลวงปู่ศุข' กรุแตก-วัดพระบรมธาตุฯ
วัดพระบรมธาตุวรวิหาร เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งในจังหวัดชัยนาท เดิมเรียกว่า 'วัดพระธาตุ' หรือ 'วัดหัวเมือง' บริเวณแถบนี้เคยเป็นที่ตั้งของเมืองชัยนาท สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยขอมเรืองอำนาจอยู่แถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีพระบรมสารีริกธาตุอยู่ในองค์พระเจดีย์เป็นสำคัญ
ยุคสมัย 'พระมหาจักรพรรดิ' เมื่อคราวข้าศึกมารุกรานบ้านเมือง ประชาชนเกิดระส่ำระสาย วัดจึงถูกทอดทิ้งขาดการทำนุบำรุงได้ทรุดโทรมลงเป็นอันมาก จนถึงปีพ.ศ.2260 ตรงกับสมัย 'พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ' แห่งกรุงศรีอยุธยา ได้จัดการบูรณปฏิสังขรณ์พระเจดีย์บรมธาตุ โดยได้รับการอุปถัมภ์จากสมเด็จพระทิพมล พระเถระผู้ใหญ่แห่งกรุงศรีอยุธยา ต่อมาในสมัยรัตน โกสินทร์ได้มีการปฏิสังขรณ์เรื่อยมา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จวัดพระบรมธาตุ เมื่อปีพ.ศ.2499 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานยก 'วัดบรมธาตุ' เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับประกอบพิธีพุทธาภิเษกของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่ 75 วันที่ 8 มี.ค.2478 และได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า 'วัดพระบรมธาตุวรวิหาร' เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2499 จนถึงปัจจุบัน
ด้วยเหตุที่วัดแห่งนี้เป็นสถานที่โบราณ จึงมีวัตถุมงคลให้ได้พบเห็นอยู่บ่อยครั้ง
ล่าสุด พระครูศรีปริยัติอุเทศ เจ้าอาวาส ได้พบพระเครื่องเนื้อดินตะกั่ว พิมพ์ต่างๆ อันเป็นที่นิยมของวงการพระเครื่อง และรู้จักกันดีว่าเป็นพระเครื่องของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ซึ่งพระที่พบมีทั้งพิมพ์รัศมี, พิมพ์ประภามณฑลหลังจาร และหลังยันต์นูน, พิมพ์ปิดตาห้าเหลี่ยม ที่วงการเรียกกันว่า 'พิมพ์กรมหลวงชุมพร' อีกทั้งยังมีพระปิดตาห้าเม็ดรูปใบโพธิ์ พิมพ์สังกัจจายน์ พิมพ์ปิดตาสามเหลี่ยม และอีกหลายพิมพ์อันเป็นแบบพิมพ์ที่วงการพระเครื่องนิยมกันมานาน ปีแล้ว