บทความธรรมะ:เด็กไทยใฝ่เสพ หรือ ใฝ่ทำ
ปัญหาที่เกิดขึ้นในเวลานี้ก็คือ พ่อแม่ไม่สามารถเป็นแบบอย่างให้แก่ลูกได้ในเรื่องนี้ อีกทั้งไม่มีเวลาที่จะให้แก่ลูก จึงมักลงเอยด้วยการให้วัตถุแก่ลูกเป็นการชดเชย รวมทั้ง การเลี้ยงดูลูกให้สุขสบาย เพราะไม่อยากเห็นลูกลำบาก ดังนั้น หากไม่อยากให้ลูกเป็นคนฟุ้งเฟ้อ พ่อแม่ควรปรนเปรอลูกด้วยวัตถุให้น้อยลง ขณะเดียวกันควรมีเวลาชวนลูกทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เรียนรู้ว่าความสุขก็สามารถเกิดขึ้นได้จากการทำงานที่ชอบ จากการชื่นชมธรรมชาติ จากการทำความดีช่วยเหลือผู้อื่น จากการศึกษาหาความรู้ รวมทั้ง จากสมาธิภาวนา (แทนที่จะพาลูกเที่ยวห้างหรือเสพวัตถุอย่างเดียว)
กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้เด็กเป็นผู้ใฝ่ทำ มิใช่เป็นผู้ใฝ่เสพ
นอกจากการทำให้ครอบครัวเป็นแหล่งเรียนรู้ กล่อมเกลาเพื่อเข้าถึงความสุขที่ไม่อิงวัตถุแล้ว ฆราวาสควรร่วมกันผลักดันให้มีการปฏิรูปการศึกษา เพราะการศึกษาทุกวันนี้ส่งเสริมทัศนคติวัตถุนิยม ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม เช่น การทำให้เด็กเอาวัตถุเป็นตัวตั้ง เรียนเพื่อจะมีรายได้ดี เอาเงินเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ ไม่ส่งเสริมให้เด็กรู้จักคิดไตร่ตรองในเรื่องชีวิต หรือฉลาดในเรื่องจิตใจ รวมทั้ง ไม่ส่งเสริมกิจกรรมที่เอื้อให้เด็กเข้าถึงความสุขที่ไม่อิงวัตถุ เช่น การเป็นจิตอาสา ความมีใจรักในศิลปะ รักธรรมชาติ หรือการมีความสุขจากการเรียนรู้สิ่งใหม่ (แทนที่จะคิดถึงแต่คะแนนหรือเกรด) หรือความสุขที่เกิดจากใจสงบ
นอกจากนั้นควรผลักดันให้เมืองและชุมชนต่างๆ มีสถานที่ที่เอื้อให้เด็กได้ทำกิจกรรมที่อำนวยให้เกิดความสุข (โดยไม่ต้องรอเสพวัตถุ) เช่น พิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะ สนามกีฬา ไม่ใช่เอาแต่ส่งเสริมศูนย์การค้า ซึ่งมีแต่จะหล่อหลอมให้เยาวชนเป็นผู้ใฝ่เสพ มากกว่าใฝ่ทำ
fb. พระไพศาล วิสาโล - Phra Paisal Visalo
https://www.facebook.com/visalo