หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน






ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  พระบูชา
  พระเหรียญ
  พระผง
  เครื่องราง
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    ปล่อยเต่าในวัด คือทำบุญหรือทำบาป
    ปล่อยเต่าในวัด คือทำบุญหรือทำบาป

    คำถามที่มีคำตอบเกี่ยวกับสัตว์น้ำและเต่าของ รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ (หมอหนิ่ง) รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์ป่า ผู้ก่อตั้งชมรมรักษ์เต่า

    วันพระ วันออกพรรษา วันมงคลต่างๆ ทุกคนต่างมุ่งหน้าเข้าหาวัด เพื่อปล่อยสัตว์ปล่อยปลา เพราะเชื่อว่าเป็นการทำบุญปล่อยอิสรภาพให้สัตว์เหล่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วการกระทำดังกล่าว กลับเป็นตรงข้าม เพราะแท้ที่จริงแล้ว ' วัดคือนรก ' ของสัตว์เหล่านี้ เพราะเต่า นก และปลา ถูกใช้เป็นสินค้าเพื่อการทำบุญของคนทำบาป หลายคนที่ชอบทำบุญปล่อยนก ปล่อยปลา หรือปล่อยเต่า ไม่เคยทราบว่าแท้ที่จริงแล้วคือการปล่อยให้สัตว์เหล่านี้ไปสู่จุดจบของชีวิต ไม่ก็ถูกนำมารีไซเคิลเพื่อขายต่อ

    ได้คลุกคลีในแวดวงสัตว์น้ำ โครงการ ช่วยเต่าจากวัด โดยเริ่มต้นจากวัดบวรฯ

    "หน้าที่ของดิฉันคือช่วยสัตว์จรจัดที่ไม่มีใครเหลี่ยวแลอย่างเข่น เต่า ซึ่งดิฉันทำอยู่กับคุณขจร จิระวนนท์ Rescue เต่าวัด เพราะวัดเป็นนรกของสัตว์"

    ".. เริ่มแรกพระโทร.มาบอกว่าเต่าตายเห็นสภาพเต่ามีปลิงเกาะ ไม่มีที่ตากแดดให้ปลิงออก เจาะเลือดออกมาจึงรู้ว่าเพราะสารเคมีในน้ำคลองที่วัดทำให้เต่าตาย เพราะฉะนั้นใครเอาสัตว์ปล่อยวัดคิดให้ดีว่าทำบุญหรือทำบาป" หมอหนิ่งเล่าถึงภารกิจในการช่วยชีวิตเต่า

    ภารกิจของหมอหนิ่งในการช่วยชีวิตเต่าในวัด เริ่มจากเต่า 500 ตัวในวัดบวรฯ ซึ่งเป็นวัดใหญ่ที่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าอาวาสอย่างดี แต่การเดินทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ปัญหาเรื่องทุนทรัพย์ เครื่องมือ บุคลากร ตลอดจนความเข้าใจของแต่ละฝ่าย ทำให้การทำงานเพื่อช่วยเต่าไม่สามารถเดินไปไกลเท่าที่ควร แต่หมอหนิ่งก็เลือกที่จะเดินหน้าต่อไปเพื่อช่วยเหลือเต่า สัตว์ที่อยู่นอกเหนือความรับผิดชอบขององค์กรใดๆ

    สิ่งหนึ่งที่ช่วยแบ่งเบาภาระของหมอหนิ่งได้ คือการส่งผ่านความเข้าใจไปยังคนในสังคม ทั้งชาวบ้านที่ค้าขายเต่าในวัด พระ ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่ชอบเลี้ยงเต่าหรือชอบทำบุญปล่อยเต่าให้มีความเข้าใจที่ถูกในเบื้องต้น หมอหนิ่งบอกว่า

    "ก่อนจะเลี้ยงสัตว์อะไรเราต้องศึกษาให้รู้ว่าเขากินอย่างไร และอยู่อย่างไร ถึงจะไปซื้อมาเลี้ยง และสัตว์ที่มาจากแหล่งค้าส่วนใหญ่ตจะมีโรคเยอะมักจะไม่รอด หลังจากซื้อมาแล้วควรนำไปให้สัตวแพทย์ตรวจก่อน"

    การนำเต่าจากวัดมารักษาภารกิจที่ทำด้วยหัวใจของหมอหนิ่ง เมื่อรักษาเต่าจนหายดีจะต้องมีบ้านให้เต่าอยู่ออกสู่อิสรภาพ โดยล็อทแรกได้ปล่อยที่คลอง 14 ภารกิจหน้าที่ทั้งหมดได้เงินช่วยเหลือจากโครงการ ซึ่งหมอหนิ่งบอกว่า ' เงินเกินบัญชีเยอะ และควักเงินส่วนตัวตลอด '

    ในขณะนี้การเดินทางเพื่อช่วยเหลือเต่าจรจัดต้องประสบปัญหามากมาย โดยเฉพาะปัญหาด้านทุนทรัพย์ในการนำมาต่อยอดเพื่อช่วยต่อไป

    ข้อมูลเพิ่มเติมจากรายการจุดเปลี่ยน ตอน 2 ออกอากาศวันที่ 17 มี.ค. 2550 ที่ทีมงานสัมภาษณ์ รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ (หมอหนิ่ง) สรุปมาได้ว่า ในการปล่อยเต่านั้น

    1 ท่านต้องรู้ว่าเต่าที่ท่านจะปล่อยนั้นคือ เต่าบกหรือเต่าน้ำ เพราะเต่าไม่ใช่สัตว์น้ำแต่เต่าเป็นสัตว์เลื้อยคลาน

    เต่าบก ที่เท้าจะคล้ายๆเท้าช้าง ขายาว กระดองรูปร่างนูนขึ้นมากกว่าเต่าน้ำ
    เท้าจะแบน ขาสั้น เอาไว้ไหว้น้ำ

    2 สถานที่ปล่อย การที่เต่าต้องขึ้นมาพักบนตลิ่งเพราะ

    2.1 เต่าต้องการพักหายใจ และพักเหนื่อย เพราะเต่าเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ไม่ใช้สัตว์น้ำ (โรงเรียนเราสอนผิดมาโดยตลอด) จึงว่ายน้ำตลอดเวลาเหมือนปลาไม่ได้

    2.2 เต่าต้องการผึ่งแดด

    ดังนั้นการปล่อยเต่าน้ำลงในบริเวณที่ๆไม่มีตลิ่งให้เต่าขึ้นมาผึ่งแดด เช่น ตามคลองประปา , บ่อน้ำในวัดที่มีการก่อคอนกรีดเป็นบล็อกสูงๆ (บ่อในวัดบวรฯ ที่หมอหนิ่งไปช่วยมา ) คือการทำร้ายเต่าอย่างทารุนโหดร้ายมากๆ

    แม้ว่าบางวัด หรือบางสถานที่จะมีการต่อแพ ให้เต่าขึ้นมาผึ่งแดดได้แต่นั่นไม่ใช่สถานที่อยู่ตามสภาพธรรมชาติที่แท้จริงของเต่า เปรียบเหมือนเราถูกจับไปขังคุก เขามีข้าวให้กินมี ที่ให้นอน แล้วเราชอบหรือไม่ ถ้าเราไม่ชอบเต่าก็เช่นเดียวกับเรา

    3 สภาพน้ำบริเวณที่จะปล่อย ต้อง ไม่สกปรก ถ่ายเทยาก และแออัด เช่น บ่อน้ำในวัดบวรฯ กทม.

    มีเต่าหลายตัวที่หมอหนิ่ง และเพื่อนชมรมรักษ์เต่า ได้ช่วยชีวิตขึ้นมาจากในวัดบวรฯ สถานที่ทำบุญของเรานี่แหละ

    หลายตัวติดเชื้ออย่างรุนแรง กระดองแตก กระดองเปื่อยยุ่ยจนลึกเข้าไปถึงกระดูกเต่าชั้นใน (กระดองเป็นกระดูกเต่าชั้นนอก)

    หลายตัวมีเลือดจางมากต้องให้วิตามีนเพื่อการบำบัดฟื้นฟู

    บางตัวอาการโคม่าต้องให้น้ำเกลือกันเลย

    หลายตัวสุขภาพอ่อนแอเพราะ มีปลิงเกาะอยู่ตามร่างกายเป็นจำนวนมากสมาชิกชมรมรักษ์เต่า ต้องช่วยกันนำไปแช่น้ำเกลือ แล้งใช้ผ้าเช็ดออก

    เต่าทุกตัวที่ชมรมรักษ์เต่า ช่วยมาได้นั้น จะนำไปบำบัดฟื้นฟูอีกที่ในสถานอนุบาลสัตว์น้ำที่ ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ (หมอหนิ่ง)เป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด

    เมื่อเต่าหายดี แล้วจะมีการนำไปปล่อยยังที่ๆเหมาะสมชนิดของเต่า เพราะเต่ามีแยกออกไปมากมายหลายชนิด เช่น เต่านาต้องการอาศัยในที่ชื้นแฉะแบบในนาข้าวเป็นต้น ดังนั้นถ้าคิดจะปล่อยเต่าต้องแน่ใจว่าเราปล่อยเต่าในสภาพที่เหมาะกับเค้าหรือไม่

    โครงการช่วยเต่าในวัดบวรฯ จากที่รายการไปถ่ายทำมา เห็นว่าทำกันมา 4 ปีแล้ว หากผู้มีจิตศรัทธาท่านใดอยากเข้ามามีส่วนช่วยทำบุญในครั้งนี้สามารถติดต่อได้ที่ ชมรมรักษ์เต่า 02-699-3110 -1

    ช่วยแนะนำเพื่อนๆหรือใครก็ตามที่คุณรู้จักเพื่อที่เขาจะได้ ปล่อยสัตว์ได้บุญ มิใช้ปล่อยสัตว์ได้บาปอย่างที่แล้วๆมานะคะ ขออนุโมทนากับทุกๆท่านที่เข้ามาอ่าน และช่วยเผยแพร่กระทู้นี้ด้วย

    (ข้อมุลนี้ได้รับคัดลอกมาอีกต่อหนึ่ง ไม่ทราบแหล่งที่มาต้องขออภัยผู้จัดทำด้วย เห็นว่าน่าสนใจจึงนำมาบอกต่อ)


    • Update : 17/4/2554
    © Copyright 2011 www.watbangwaek.com All rights reserved